Powered By Blogger

19 มกราคม 2555

โฉมหน้า รมต.ศึกษาธิการคนใหม่ หลังปรับครม.2


หลังจากที่นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มีการปรับผังคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 แวดวงการศึกษาก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดย นายวรวัจน์  เอื้ออภิญญกุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ถูกย้ายไปเป็นเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และบุคคลที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแทน คือ  รศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช   วันนี้ศูนย์ข่าวการศึกษาไทย จะพาทุกๆท่านไปรู้จักกับ รมต.กระทรวงการศึกษาคนใหม่กันค่ะ
รศ.สุชาติ ธาดาธำรงเวช 

รศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตขุนคลังสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์  

          รศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช เกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2495 บุตรชายคนโตที่ถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวช่างซ่อมรองเท้า แต่ขยันหมั่นเพียรในการศึกษาจนได้ทุนเรียน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ จาก The London School of Economics and Political Science สหราชอาณาจักร และจบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา

          ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.สุชาติ รับราชการเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยรามคำแหง และยังเคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และวิจัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในปี พ.ศ.2534 อีกด้วย หลังจากนั้น รศ.ดร.สุชาติ ยังได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งกรรมการของรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ๆ อีกหลายหน่วยงาน เช่น การประปาส่วนภูมิภาค เป็นต้น

          รศ.ดร.สุชาติ เริ่มต้นเข้าสู่วงการการเมืองโดยการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในปี พ.ศ.2546 และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช จนกระทั่งในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ไว้วางใจมอบให้ รศ.ดร.สุชาติ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในที่สุด

           แน่นอนว่าหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้  เราคงต้องมาตามกันดูต่อว่า นโยบายด้านการศึกษาของรัฐบาล จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีแนวโน้มไปในทิศทางใด  และนโยบายเดิมในสมัยรัฐมนตรีคนก่อน จะมีการสานต่อ หรือแก้ไขมากน้อยเพียงใด  คงต้องติดตามข่าวสารกันอย่างต่อเนื่องนะคะ  และคงต้องฝากความหวังการพัฒนาการศึกษาไทย ไว้ที่รัฐมนตรีใหม่กันอีกแรง หวังว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คงไม่ส่งผลกระทบกับการศึกษาไทยไปมากกว่านี้....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น