สวัสดีค่ะน้องๆ.. ขอต้อนรับน้องๆ เข้าสู่เทศกาล "แนะกันให้ติดชัวร์ 56" กิจกรรมที่จะช่วยน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนให้แอดมิชชั่นติดแบบชัวร์ๆ

           หายช็อคกับคะแนนกันรึยังคะ >< ใครที่ยังไม่หายช็อค ขอให้รีบดึงสติ เรียกขวัญตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะสัปดาห์หน้าจะเริ่มเข้าสู่สนามแอดมิชชั่นของจริงแล้ว โอ้ววว โดยวันที่ 4 เม.ย.นี้ ระเบียบการแอดมิชชั่นจะเริ่มขายพร้อมกันทั่วประเทศ และเริ่มเลือกคณะกันได้ตั้งแต่วันที่ 11-21 เม.ย. หันไปดูปฏิทินตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึงเดือนแล้วค่ะ

         
           ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประกาศผล O-NET แบบสายฟ้าแล่บ ทำให้น้องๆ ม.6 มีคะแนน O-NET ของแท้ ของจริงอยู่ในมือเรียบร้อย หลังจากที่ใส่คะแนนหลอกๆ ในโปรแกรมคำนวณคะแนนเด็กดีมาหลายเดือน ดังนั้น ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาโปรแกรมคำนวณคะแนนมีน้องๆ มาใช้กระหน่ำมาก บางคนก็อุ่นใจขึ้นเมื่อเห็นคะแนนตัวเอง แต่บางคนดูแล้วอาจหงายเงิบ เพราะดูกราฟไม่เข้าใจ ซึ่งวันนี้พี่มิ้นท์พร้อมแล้ว จะมาแนะนำการเลือกคณะจากกราฟกันค่ะ

           ปูพื้นฐานให้น้องๆ ก่อนนะคะ เวลาน้องๆ จะเลือกคณะหรือจัดอันดับ ไม่ใช่ว่าเราจะเลือก 4 อันดับเป็นคณะอะไรก็ได้ตามใจชอบ ซึ่งการเลือกตามใจชอบแบบนี้ ถ้าคะแนนสูงพอก็โชคดีมีโอกาสติด แต่ถ้าดวงตก ปีชง ก็โชคร้ายเสี่ยงไม่ติดซักอันดับเหมือนกัน ดังนั้น ก่อนเลือกคณะทุกครั้ง พี่มิ้นท์ ขอให้น้อง "ดู" 3 อย่างต่อไปนี้เสมอค่ะ

           1. คะแนนต่ำสุดย้อนหลัง เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะทำให้เห็นแนวโน้มในปีนี้ ทางที่ดีควรเทียบย้อนหลังซัก 3 ปีขึ้นไปนะคะ เพราะคะแนนแต่ละปีเหวี่ยงไปมาได้เสมอ

            
           2. คะแนน GAT PAT เป็นตัวแปรสำคัญแทบจะสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะสัดส่วน GAT PAT ในแต่ละคณะรวมกันถึง 50% เลยทีเดียว ถ้ามีน(Mean) GAT PAT วิชาไหนต่ำกว่าปีที่แล้ว ก็พอจะเดาๆ ได้ว่าคณะที่ใช้คะแนนนั้นมีแนวโน้มคะแนนลดลง ตรงกันข้ามถ้าหากมีนมากกว่าเดิม มีโอกาสทำให้คะแนนแอดมิชชั่นคณะนั้นสูงขึ้นด้วย

           3. จำนวนรับ สงสัยกันมั้ยว่าจำนวนรับในแอดมิชชั่นเกี่ยวอะไรด้วย? เกี่ยวหลายอย่างเลยค่ะ จำนวนรับแอดมิชชั่นที่มาก ทำให้น้องๆ มีโอกาสลุ้นที่นั่งมากขึ้น และถ้าหากว่าในปีนี้รับเยอะกว่าปีก่อนๆ ก็ยิ่งมีโอกาสสอบติด และคะแนนแอดมิชชั่นคณะนั้นต่ำลง ส่วนคณะที่รับน้อยๆ ส่วนใหญ่คนที่ติดก็เป็นหัวกะทิทั้งนั้นค่ะ ดังนั้นเห็นคะแนนต่ำสุดของคณะไหนสูงเว่อร์ อย่าเพิ่งตกใจ ลองดูจำนวนรับแล้วจะเข้าใจเอง ถ้าคิดว่าคะแนนตัวเองสู้ไม่ได้ ไปเล็งๆ คณะที่รับเยอะๆ ก็อุ่นใจนะ

           เอาล่ะ.. ได้เวลามาพูดถึงกราฟของตัวเองกันบ้าง สำหรับกราฟที่คลอดออกมาจากโปรแกรมคำนวณคะแนนเว็บไซต์เด็กดีดอทคอม หน้าตาจะประมาณนี้

           ประกอบไปด้วยเส้นสี 3 เส้น มีความหมายในตัวของมัน (ไม่ได้เน้นสวยงามนะจ๊ะ) โดยสีเขียว คือ เส้นคะแนนสูงสุดของคณะนั้นในแต่ละปี เป็นเส้นที่เทพๆ สร้างไว้ค่ะ ส่วนสีฟ้า คือ เส้นคะแนนของเรา และเส้นสีแดง คือ เส้นคะแนนขั้นต่ำของคณะนั้นในแต่ละปี โดยเส้นเขียวกับแดงจะเปลี่ยนแปลงทุกปี มีขึ้น-ลง เป็นสัจธรรมของชีวิต
        
           คำถามต่อมา เวลาดูคะแนนเทียบจากต่ำสุดหรือสูงสุด? ย้ำตรงนี้ชัดๆ เวลาเทียบคะแนนให้เทียบจากคะแนนต่ำสุด หรือเส้นสีแดงนะคะ!!

กราฟเป็นแบบนี้เลือกคณะยังไงดี
            เมื่อน้องๆ คำนวณคะแนนออกมาแล้ว แนวทางคะแนนหลังคำนวณออกมามีอยู่  3 แบบ ลองดูว่าแบบไหนใกล้เคียงกับเรา และดูวิธีจัดอันดับกันเลยจ้า

แบบที่ 1 คะแนนสูงกว่าคะแนนขั้นต่ำ

            สำหรับกราฟกลุ่มนี้ น้องๆ อุ่นใจได้ระดับนึงแล้ว เพราะคะแนนเกินเส้นสีแดง ตัวการ์ตูนที่โผล่ขึ้นมาหลายคนอาจได้ติดชัวร์กับลุ้นได้ แต่อย่าเพิ่งวางใจนะคะ สิ่งที่ควรดูต่อไปคือ คะแนนเป็นบวกมากขนาดไหน สำหรับคะแนนยิ่งบวกมากยิ่งดี ยิ่งมีโอกาสติดค่ะ มาดูแนวทางการเลือกคณะของคะแนนกลุ่มนี้กัน

            Do :)  - คะแนนเป็นบวกค่อนข้างได้เปรียบ สามารถจัดไว้ในอันดับใดก็ได้
                      - ถ้าคะแนนบวกเกิน 1,000 คะแนนขึ้นไป เหมาะสำหรับไว้อันดับ 3-4 ยกเว้นว่าอยากเรียนจริงๆ แล้วบวกมหาศาลขนาดนี้ ไว้อันดับ 1 ได้เลยค่ะ ติดชัวร์!! ยกเว้นว่าถ้ากราฟปีก่อนๆ เหวี่ยงขึ้นลงมาก ควรเผื่ออันดับ 3-4 ไว้ 2,000 คะแนนขึ้นไป
                      - ปริ้นกราฟนี้ติดฝาบ้านได้เลย :)

            Don't :(  - ถ้าบวกแค่นิดหน่อย เช่น หลักสิบ หรือหลักร้อยต้นๆ ไม่ควรไว้อันดับ 3-4 นะคะ (ไว้อันดับ 1-2 ได้) เพราะคะแนนที่บวกจากขั้นต่ำเพียงนิดเดียวไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ หากไว้อันดับท้ายๆ มีโอกาสหลุดค่ะ ส่วนคะแนนบวกหลักร้อยที่เกิน 500 แต่ไม่เกิน 1,000 พี่มิ้นท์ก็ไม่แนะนำให้ไว้อันดับ 4 นะคะ เพราะเสี่ยงเหมือนกัน (แต่ไว้อันดับ 1-3 ได้โลด ปลอดภัยค่ะ)


แบบที่ 2 คะแนนต่ำกว่าคะแนนขั้นต่ำ

           กราฟของน้องๆ กลุ่มนี้คงทำให้ถอดใจกันไปหลายราย แต่ไม่ต้องคิดมากนะคะ เป็นเรื่องปกติ มีบวกคณะอื่น ก็ต้องมีลบคณะอื่นเหมือนกัน ในกรณีที่คะแนนน้องๆ ต่ำกว่าคะแนนขั้นต่ำปีก่อนๆ ทุกปี มีแนวทางเลือกคณะดังนี้

          Do :) - คะแนนติดลบให้ไว้อันดับ 1-2 เท่านั้น
                    - ใครที่ลังเลไม่กล้าเอาคะแนนติดลบไว้อันดับ 1 อย่าได้แคร์ค่ะ! เลือกไปเลย เพราะถ้าหากปีนี้คะแนนลด น้องๆ มีโอกาสติดนะคะ ส่วนต่างเล็กๆ แค่นี้วัดใจกันไปเลย ดีกว่ามารู้ทีหลังว่าติดแต่ไม่ได้เลือก
                    - ให้ดีที่สุด ควรติดลบแค่ 1 อันดับคือ อันดับ 1-2 ยกเว้นว่าลบแค่หลักสิบสามารถติดลบ 2 อันดับได้
                    - หาคณะที่ใกล้เคียง/เปลี่ยนสถาบัน เพื่อลดความเสี่ยงคะแนนค่ะ ถ้าไม่รู้จะเลือกคณะ/มหาวิทยาลัยไหนดี แนะนำให้กดเข้าไปดูฟังก์ชัน "ผลคะแนนของคุณ ติดคณะไหนได้บ้าง" เพราะในนี้จะมีบอกว่าคะแนนของน้องๆ ติดหรือมีลุ้นติดในคณะไหนได้บ้าง ลองดูรายชื่อคณะ สนใจคณะไหนลองเสิร์ชหาข้อมูลดูค่ะ ถูกใจคราวนี้ก็เลือกเลย

ฟังก์ชันที่บอกว่าคะแนนของน้องๆ ติดคณะไหนได้บ้าง

          Don't :( - สิ่ง ที่ไม่แนะนำมากๆ สำหรับคะแนนติดลบ คือ ไม่ควรไว้อันดับ 3-4 ย้ำว่าไม่ควรเด็ดขาด เพราะปีก่อนๆ พี่ๆ หลายคนปิดท้ายอันดับ 4 เป็นคะแนนบวกหลายร้อยยังหลุดได้ ดังนั้นการจะเอาคะแนนติดลบไว้อันดับสุดท้ายมันเสี่ยงเกินไป หลุดแล้วหลุดเลยนะคะ
                        - ไม่ควรเลือกคณะที่มีคะแนนติดลบทั้ง 4 อันดับ น่ากลัวสุดๆ
                        - ถ้าจะเลือกติดลบ 2 อันดับ ไม่ควรเลือกคณะที่ติดลบมากๆ (ประมาณ 1,000 - 2,000 คะแนนขึ้นไป) ทั้ง 2 อันดับ ถ้าติดลบมากขนาดนี้แนะนำให้เลือกแค่อันดับเดียวค่ะ เสียดายอันดับ อีกอันดับเอาไว้ไปเลือกคณะที่มีโอกาสกว่านี้ดีกว่านะ
                        - ถ้าติดลบมากๆ แบบ 5,000 คะแนนขึ้นไป ตัดออกจากสารบบได้เลยค่ะ ค่อนข้างลุ้นยาก

             สุดท้าย สำหรับน้องๆ ที่คะแนนติดลบให้จำไว้ว่า คะแนนติดลบมากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงหลุดมากเท่านั้น ดังนั้นถ้ามีหลายคณะเป็นแบบนี้ ตัดใจให้เลือกคณะที่อยากเรียนที่สุดนะคะ    

แบบที่ 3 เดี๋ยวบวก เดี๋ยวลบ งงฝุดๆ

             กราฟแบบนี้หวาดเสียวยิ่งกว่าคะแนนติดลบอีกนะ เพราะมันก้ำกึ่งระหว่างติด-ไม่ติด เมื่อเทียบกับคะแนนเก่าๆ จะเห็นว่าบางปีคะแนนเราก็มากกว่า แต่บางปีก็น้อยกว่า แบบนี้แหละค่ะที่เค้าเรียกว่าคะแนนเหวี่ยง เป็นคณะอันตรายมากๆ ถ้าน้องๆ คำนวณออกมาแล้วได้กราฟแบบนี้ ขอให้ตั้งสติและเลือกคณะดีๆ นะ

            สาเหตุที่คะแนนขึ้นลงแบบนี้ มีได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น ปีก่อนคะแนนทำไว้สูงมาก พอมาปีนี้ทุกคนหนีไปเลือกคณะอื่นกันหมด ทำให้คะแนนต่ำลง พอปีถัดมาเห็นคะแนนต่ำก็แห่กันไปเลือกอีก ทำให้คะแนนกลับมาสูงอีก เป็นได้บ่อยในหลายคณะ เรียกว่าเป็นคณะที่เด็กแอดฯ ต้องวัดใจกัน ส่วนอีกสาเหตุนึงที่มีความเป็นไปได้ คือ มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการคำนวณคะแนน เพิ่มคะแนนนู้น ลดคะแนนนี้ ทำให้คณะนั้นๆ กราฟมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ
           แนวทางการการจัดอันดับ เมื่อได้กราฟแบบนี้

            Do :) - ถ้าเทียบกับปีย้อนหลังหลายๆ ปีแล้วคะแนนของเราโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือเส้นสีแดงมากกว่าใต้เส้นสีแดง และคะแนนของน้องๆ เป็นบวกเกิน 500 คะแนนขึ้นไป สามารถไว้อันดับ 1-3 ได้ค่ะ
                    - เอาให้ปลอดภัยที่สุด ไว้อันดับ 1-2 เท่านั้น
                    - ถ้าหลายคณะที่อยากเข้า คำนวณออกมาแล้วเป็นแบบนี้ และคะแนนเป็นบวกนิดเดียวทั้ง 2 คณะ ตัดใจเลือกมาอันเดียวค่ะ
                    - หาคณะที่คะแนนเป็นบวกปิดท้ายไว้อันดับ 3-4 เสมอ

            Don't :(  - หากเทียบกับปีล่าสุดแล้ว ถ้าคะแนนบวกหรือลบเพียงเล็กน้อย ไม่ควรไว้อันดับ 3-4 เพราะไม่ปลอดภัย มันอาจเหวี่ยงได้อีก ทิศทางไหนก็ไม่รู้
                           - ถ้าเทียบกับปีล่าสุดแล้วติดลบกว่าเยอะ หรือต่ำกว่าเส้นแดงหลายปี ให้ไว้อันดับ 1-2 เท่านั้น
      
สรุปปิดท้าย พี่มิ้นท์ จัดแบบสั้นๆ นะ

          อันดับ 1-2 ควรเป็นคณะที่อยากเรียนจริงๆ ติดลบก็เลือกไปเถอะ แต่ถ้าคะแนนติดลบเยอะมากทั้ง 2 อันดับให้เลือกมาแค่อันเดียว สำหรับคนที่บวกเยอะๆ ตั้งแต่อันดับ 1 ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยจ้า

          อันดับ 3-4 คะแนนไม่ควรติดลบแล้วค่ะ เน้นคะแนนบวกเข้าไว้ บวกเยอะเท่าไหร่ยิ่งส่งผลดี รวมถึงไม่ควรเลือกคณะที่คะแนนเหวี่ยง หรือ คณะเปิดใหม่ ไว้อันดับนี้ด้วยนะคะ เพราะเข้าข่ายคณะอันตราย

          จบแล้ววววว!! กับ Do&Don't การเลือกคณะจากกราฟคะแนนแบบต่างๆ หวังว่าเด็กแอดฯ 56 จะนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้นะ ถ้ามีสติ รู้จักประเมินตนเองและเลือกคณะแบบระวัง รับรองได้เรียนในคณะในฝันสมใจแน่นอน!! และถ้าหากน้องๆ คนไหนยังมีคำถามสงสัย ไม่เข้าใจการเลือกคณะทิ้งคำถามไว้ได้เลยค่ะ

          ส่วนพี่ๆ ปี 55 หรือปีอื่นๆ ที่แวะเวียนเข้ามา สามารถแนะนำน้องๆ ได้เช่นกันนะคะ :)

          แนะกันให้ติดชัวร์ ตอนที่ 2 จะเป็นเรื่องของการจัดอันดับ น้องๆ ที่สงสัยว่า "อันดับ" กับ "คะแนน" อันไหนสำคัญกว่ากัน รอติดตามได้เลย หรือไปติดตามแนะกันให้ติดชัวร์ ตอนต่างๆ คลิกที่นี่